Musk Xylene เป็น Nitro musk ชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากหาซื้อง่ายและราคาถูก มีชื่อทางเคมีว่า 5-tert-butyl-2,4,6-trinitro-m-xylene

ก่อนอื่น เรามารู้จักสารจำพวก Musk กันก่อนดีกว่า ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร และใช้ทำอะไร
Musk เป็นสารหอมชนิดหนึ่ง สามารถสกัดได้จากต่อมเพศบริเวณเหนือยเครื่องเพศของกวางเพศผู้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆจนถึงกลิ่นคาวอุ่นๆ เนื่องจากการที่จะได้สารหอมชนิดนี้ เราจำเป็นต้องล้มกวางไซบิเรีย หรือกวางหิมาลายัน ทำให้สารหอมชนิดนี้มีราคาแพงมากๆ

สารหอมชนิดนี้สำคัญต่อวงการน้ำหอมมากๆ (ดังจะหาอ่านได้จากบทความก่อนหน้านี้) เนื่องจากเป็นโน๊ตตัวหนึ่งที่สำคัญทั้งในแง่ของการปรุงกลิ่น โดยส่วนใหญ่มักทำให้กลิ่นหอมสว่างไสวขึ้น อ่อนโยนขึ้น เซ็กซี่ขึ้น และกระตุ้นอารมณ์ได้มากขึ้น(คนที่ช่ำชองเรื่องบนเตียง จะคุ้นเคยกับกลิ่นแบบนี้เป็นพิเศษ) และหน้าที่สำคัญของมัสก์ที่ไม่พูดไม่ได้คือ ใช้เป็น Fixative หรือทำให้กลิ่นติดทนขึ้นนั่นเอง (น้ำหอมตลาดนัดจึงชอบนำไปใช้กันเดี่ยวๆ ซึ่งผิดถนัดเลย)

เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ตามธรรมชาติ หรือเพื่อนุรักษ์สัตว์ก็ตามแต่ จึงมีการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีที่สำคัญของมัสก์ขึ้นมา และพบว่าสารจำพวก Muskcone คือสารให้กลิ่นที่เป็นองค์ประกอบหลัก แม้จะไม่เหมือน Musk ธรรมชาติก็ตาม แต่ก็ใช้แทนกันได้ มนุษย์ยังให้ความสำคัญกับโน๊ตน้ำหอมตัวนี้อีกมากมายนัก จึงได้ทำการสังเคราะห์กลิ่นเลียนแบบขึ้นมามากมายเช่น Tonalide, Exaltolide, Galaxolide, Helvetolide ซึ่งมีองค์ประกอบของหมู่ทางเคมีที่ไปแทนที่ต่างกัน ให้กลิ่นหอมต่างๆกันไป (ผมชอบมากเลยล่ะ ในทุกน้ำหอมที่ผมผสม จะต้องมีมัสก์ต่างๆชนิด อยู่ร่ำไป) จนถึง Musk Xylene มัสก์ที่มีหมู่แทนที่เป็นหมู่ไนโตร ...

Musk Xylene เป็นมัสก์ที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องสำอาง น้ำหอม ผงซักฟอก น้ำยาทำความสะอาด เพราะนอกจากจะทำให้กลิ่นหอมนุ่มนวลขึ้นแล้ว ยังทำให้ผ้านุ่มได้อีกด้วย ในต่างประเทศมัสก์ชนิดนี้ถูกกำหนดปริมาณการใช้งานไว้มานานแล้ว เช่น ห้ามใช้มัสก์ประเภทนี้ในญี่ปุ่น ใน EU อนุญาตให้ใช้ใน EDT ได้ไม่เกิน 0.4% และล่าสุดไทยเราประกาศควบคุมโดยสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมแล้ว โดยต้องผ่านกระบวนการอนุญาตก่อนจะออกจำหน่ายได้

ถึงแม้ว่า Musk Xylene จะถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งประเภท 3 (บอกได้ยังไม่ชัดเจนว่ามีผลก่อมะเร็งในการทดสอบกับมนุษย์) แต่ก็มีการยืนยันแล้วว่าสามารถเอื้อต่อโอกาสในการเกิดมะเร็งได้ การศึกษานี้พบได้จากการทดสอบฉีดสารในหนูทดลองในปริมาณที่กำหนดแล้วพบว่าหนูเป็นมะเร็งตับ!!

จริงๆผมได้มีโอกาสคุยกับกรรมการผู้จัดการบริษัทผลิตน้ำหอมซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในไทยมาแล้ว และท่านได้เคยเกริ่นเรื่องนี้ไว้นานแล้ว ซึ่งผมก็เลิกใช้อย่างถาวรแล้วเช่นกัน (จริงๆแล้วผมไม่ชอบกลิ่นมันเท่าไร ส่วนใหญ่จะใช้มัสก์ตัวอื่นที่ให้กลิ่นที่มีราคามากกว่าตัวนี้ ตัวให้ให้กลิ่นหวานมันแบบของถูกๆครับ)

กลัวก็เพียงแต่ ยังมีพี่น้องผองเพื่อนที่ขายน้ำหอมกันอีกหลายคน (โดยเฉพาะน้ำหอมตามตลาดนัด) ที่นิยมใช้มัสก์มาผสมในสูตรหัวน้ำหอมเพิ่มเติม เพื่อให้กลิ่นติดทนขึ้น (ซึ่งตามจริงแล้วจะไปทำให้กลิ่นน้ำหอมเดิมเปลี่ยนไปด้วย) อาจจะยังใช้มัสก์ตัวนี้อยู่ หรือบางท่านยิ่งแล้วใหญ่ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวัตถุดิบที่ซื้อนำมาผสมนั้นคือสารอะไร สูตรสำเพ็งว่าให้ใช้อะไรก็ใช้ๆไปตามนั้น ขายได้เป็นพอ

แน่นอนการขายของก็ต้องหาจุดขาย ว่าน้ำหอมของตัวเองติดทน กลิ่นดี อะไรก็ตามแต่ แต่หากน้ำหอมติดทน พร้อมกับมีมะเร็งติดมาด้วย ก็คงไม่ไหวนะจ๊ะ นายจ๋า .......... เอวัง   

ปล. สงวนลิขสิทธิ์บทความนะครับ